
พันธุ์ของผักกาดขาวปลีแบ่งตามลักษณะของปลีได้เป็น 3 พวก
1.พวกห่อปลียาว รวมทั้งพันธุ์ที่มีหัวตั้งตรงสูงและรูปไข่ ได้แก่ พันธุ์ผักกาดโสภณหรือผักกาดขาวฝรั่ง
2.พวกปลีกลม รวมทั้งพันธุ์ปลีป้านทางส่วนบน มักเป็นพันธุ์เบา อายุสั้น
3.พวกปลีหลวม ส่วนใหญ่เป็นผักพื้นเมืองของเอเซีย พวกนี้มักไม่ห่อปลี ปลูกได้แม้อากาศไม่หนาว, ฝนตกชุก ได้แก่พันธุ์ผักกาดขาวใหญ่ (อายุ 45 วัน) ผักกาดขาวธรรมดา (อายุ 40 วัน) ปัจจุบันดูจะลดปริมาณการปลูกลงไปเนื่องจาก สู้ผักกาดขาวพวกห่อปลียาวไม่ได้ในด้านความอร่อยน่ากินและยังเก็บรักษาได้น้อยวันกว่า
ชื่อพันธุ์ผักกาดขาวปลีที่ชาวสวนใช้กันก็มีตราดอกโบตั๋น, ตางช้าง, ตราเครื่องบิน, ตราเครื่องบินพิเศษ, พันธุ์เทียนจีน ซึ่งเมล็ดมีความงอกดีส่วนพันธุ์ เทียนจินเบอร์ 23 เป็นพันธุ์ที่ทนร้อนได้ปานกลาง
ศูนย์วิจัยพืชผักแห่งเอเชีย (Asian Vegetable Research and Development Center: AVRDC) คัดเลีอกพันธุผักกาดขาวปลีที่ทนความร้อน ได้มาตั้งแต่ปี 2518 ผักกาดขาวปลีพันธุ์ที่ทนร้อนนี้สามารถเจริญเติบโตและมีการห่อปลีได้ในสภาพที่อุณหภูมิสูงกว่า 23 องศาเซลเซียส ผักกาดขาวปลีพันธุ์ทนความร้อน มีลักษณะบางอย่างที่แตกต่างจากพันธุ์ที่ไม่ทนทานความร้อนหลายอย่าง เช่น ระบบรากดีกว่ามีปริมาณคลอโรฟิลล์ในใบน้อยกว่า ใบหนากว่า
การเตรียมดิน
ผักกาดขาวปลีสามารถปลูกในดินทั่วไป แต่ดินที่เหมาะสมที่สุดคือดินร่วน ในดินเหนียวก็สามารถปลูกได้แต่ต้องทำให้ดินสามารถระบายน้ำได้ดี โดยการไถหรือขุดดินให้ลึกลสัก 12 นิ้ว แล้วตากดินให้แห้งประมาณ 10-15 วัน จึงทำการย่อย พรวนให้ก้อนเล็กใส่ปุ๋ยคอกลงคลุกเคล้า
ถ้าเป็นดินเปรี้ยวหรือดินเค็ม ควรใส่ปูนขาวในอัตราประมาณ 40 กก./ไร่ หรือประมาณ 1 กก./4 ตารางเมตร
ถ้าดินเป็นดินทรายควรใส่ปุ๋ยคอกให้มากขึ้นอัตราที่ใช้ประมาณ 2 ปีบ ต่อ 1 ตารางเมตร หรือถ้าใส่ปุ๋ยขี้เป็ด, ไก่, หมู ก็ลดปริมาณการใส่ลงมาเหลือลสัก ตารางเมตรละ 1 ปีบก็พอ การใส่ปุ๋ยคอกรองพื้นก่อนปลูกนั้นควรใส่ขณะดินแห้ง เมื่อใส่แล้วก็ใช้คราดคลุกเคล้าให้เข้ากับดินให้ดี